การทำให้เพจติดหน้าแรก Google
การทำให้เพจติดหน้าแรก Google
Search Engine Traffic
Search Engine Traffic คือ ทราฟฟิกที่ได้จาก Search Engines ต่างๆ ซึ่งในเบื้องต้นจะแบ่งได้ 2 ประเภท ดังนี้
Paid Traffic
คือ ทราฟฟิกที่เกิดขึ้นมาโดยมีค่าใช้จ่าย เช่น
- Adwords หรือ Google Ads คือ การจ่ายเงินเพื่อให้เว็บไซต์ไปอยู่ที่หน้าแรกของ Google วิธีนี้จะเป็นการกำหนดคำที่เราต้องการ และกำหนดว่าเราพร้อมจ่ายที่ราคาเท่าไหร่ต่อ 1 คลิก ซึ่งถ้าหากมีผู้อื่นกำหนดคำเดียวกับเรา และจ่ายราคาที่สูงกว่าก็จะมาแทรกอันดับของเรา ซึ่งบริเวณโฆษณานี้ทาง Google จะมีได้ที่ 2-3 ตำแหน่งเท่านั้น หากเราต้องการติดอันดับ เราจำเป็นต้องจ่ายในราคาที่สูงขึ้น หรือจะเรียกว่า “การประมูล Keywords” ซึ่งในบางกรณีจำเป็นต้องมี Budget ที่สูงสำหรับ Keywords ที่มีการแข่งขันสูง
Organic Traffic / SEO
การตลาด Google Map Marketing คือ การปักหมุดสถานที่ตั้งของเรา หรือใช้คำหลักที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ตั้ง เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย หลังจากที่ลูกค้าค้นหาสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเรา ผลการค้นหาจะแสดงสถานที่ตั้งของร้าน/กิจการ เบอร์ติดต่อ รีวิว พร้อมรายละเอียดอื่นๆ เพื่อให้ลูกค้ารู้จักเรามากขึ้น รวมทั้งแผนที่เส้นทางมายังสถานที่ตั้งของเรา โดยลูกค้าที่พบแผนที่ร้านของเราสามารถทำสิ่งต่างๆได้ดังต่อไปนี้
- การคลิกรับรายละเอียดสถานที่ตั้ง
- การคลิกเพื่อแสดงเส้นทางการเดินทาง
- การคลิกเพื่อโทรติดต่อจากอุปกรณ์เคลื่อนที่
- การคลิกเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์
โดยทั่วไปแล้ว Google จะแสดงผล 3 แค่จำนวน 3 ร้านค้า/กิจการ ต่อ 1 คำศัพท์การค้นหา (Keywords) โดยการทำ Location ของร้านเราให้ติดใน 3 อันดับแรก จะต้องใช้การทำ Google Map SEO
SEO (Search Engine Optimization) หรือ Organic Traffic คือ ทราฟฟิคที่เกิดขึ้นมาโดยไม่ต้องจ่ายเงินให้ Google และเป็นที่น่าเชื่อถือแก่ลูกค้า ซึ่งสามารถทำได้โดยการทำให้เว็บไซต์ของเราอยู่ไปหน้าแรกหรืออันดับต้นๆของผลการค้นหาใน Google Search โดยจะประกอบไปด้วย ปัจจัยภายใน และ ปัจจัยภายนอก
ปัจจัยบนเว็บไซต์ของเรา (On-page)
- เว็บไซต์ของเราเป็นอย่างไร เอื้อต่อการเก็บข้อมูลของ Search engine ไหม
- เนื้อหาเป็นอย่างไร มีจำนวนมากน้อยขนาดไหน
- มีการจัดเรียงโครงสร้างที่เหมาะสมไหม
- มีขนาดรูปภาพ หรือ วิดีโอ ที่เหมาะสมไหม
ปัจจัยภายนอก (Off-page / Marco)
- Keywords ที่ใช้ หากใช้ Keywords ที่เฉพาะเจาะจงจะทำได้ง่ายกว่า คำพูดกว้างๆ
- Long tail keywords คือคำค้นหายาวๆ (ถ้าหากมือใหม่แนะนำให้เริ่มจากอันนี้ เนื่องจากง่าย เข้าถึงลูกค้าโดยตรง ค่อนข้างเป็น Buying intent keywords)
การทำ SEO ใช้เวลาเท่าไหร่ ?
เบื้องต้นเลยให้คิดว่าใช้เวลา ประมาณ 6-8 เดือน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสิ่งต่างๆ เช่น ความพยายาม(effort) ทักษะความชำนาญ(skill) เงินทุน(budget) รวมถึงเวลา เนื่องจากเรามีเวลาจำกัด บางอย่างบางหน้าที่เราจำเป็นจะต้องจ้าง outsource เพื่อลดภาระหน้าที่ต่างๆ หรือใช้เครื่องมือเพื่อช่วยเหลือในการทำงาน หรือจ้างคนมาเขียน article ต่างๆ ทั้งหมดนี้จะเป็นคำตอบได้ว่า ใช้เวลาในการทำ SEO เท่าไหร่
SEO Case Study – Bangkok SEO Page
ทีมงาน Two Bears Marketing ได้ทดลองทำกรณีศึกษาของ Search Engine Optimization เว็บไซต์ของเราเอง โดยมี Keywords คือ “bangkok seo” และเว็บไซต์ก็คือ “www.2bearsmarketing.com” นั่นเอง โดยหน้าเพจนี้ถูกสร้างไว้เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว แต่ทีมงานของเราไม่ได้มีความตั้งใจที่จะทำ SEO ให้กับเพจนี้ ทำให้ก่อนที่จะทำกรณีศึกษา SEO ให้กับหน้าเว็บเพจนี้ ณ วันที่ 16 April 2019 เว็บเพจหน้า https://www.2bearsmarketing.com/bangkok-seo/ อยู่อันดับที่ 12 (หน้า 2) การจากค้นหาด้วยคำว่า bangkok seo
ในวันนี้เว็บเพจหน้านี้ได้ขยับอันดับขึ้นมาอยู่หน้าแรก (Google Page 1) อับดับต้นๆแล้วครับ แต่ในเรื่องอันดับ ยังไม่เสถียรเท่าที่ควร โดยทางเราใช้เวลาทำ SEO ประมาณ 1 เดือนกว่าๆก็สามารถไต่อับดับขึ้นมาหน้าแรกของผลการค้นหาใน Google แล้วครับ
หากใครอยากทราบว่าอยู่อันดับที่เท่าไหร่ ลองค้นหาดูได้ครับ และสำหรับคนที่สนใจติดตามผลงานหรือข้อมูลดีๆเรื่องการตลาดในดิจิตอลของ Two Bears Marketing ก็สามารถลงชื่อและอีเมลไว้ได้ครับ ในเร็วๆนี้เราอาจจะมีทำกรณีศึกษา (Case Study) อื่นๆเพิ่มเติม เช่น Tokyo SEO หรือ Singapore SEO อย่าลืมติดตามนะครับ
ใครที่สนใจติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ Digital marketing สามารถกรอกข้อมูลได้ที่นี่ Click ! เรื่องต่างๆที่น่าสนใจ เช่น
- กลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์ 2018-2019
- การนำดิจิตอล Marketing มาใช้ในการเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจ
- โฆษณา Facebook Ads คุ้มหรือไม่?
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้เขียนขึ้นโดยนักศึกษาฝึกงานจากมหาวิทยาลัยที่เพิ่งเข้ามาเรียนรู้งานใน Two Bears Marketing