blog
Latest Posts
วีดีโออนิเมชั่น (Animated Video) เพื่อการตลาดดิจิตัล (Digital Marketing) ดีต่อธุรกิจอย่างไร
การตัดต่อวีดีโออนิเมชั่นกับการทำ Digital Marketing การทำวิดีโออนิเมชั่น (animated video) เป็นการนำเอาภาพนิ่งมาสร้างเป็นภาพเคลื่อนไหว ทำให้มีเรื่องราวเกิดขึ้น และเป็นการแสดงให้เห็นถึงการลงทุนของผู้ประกอบการ โดยผู้ประกอบการสามารถนำวีดีโออนิเมชั่นมาใช้สำหรับการทำการตลาดออนไลน์ (Digital Marketing) เพื่อสร้างแบรนด์ อธิบายเกี่ยวกับแบรนด์ หรืออธิบายประโยชน์และวิธีการใช้งานของผลิตภัณฑ์หรือบริการ ประโยชน์ของการทำวิดีโออนิเมชั่นในเชิงธุรกิจ ในเบื้องต้นแล้ว การทำวีดีโออนิเมชั่นจะทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงการแสดงคุณสมบัติและศักยภาพของแบรนด์ การใช้คลิปวิดีโออนิเมชั่น (Animated Video) ในการแสดงวิธีการใช้งาน การแสดงคุณสมบัติ การบอกข้อห้าม ข้อควรระวัง จากการอัพโหลดวิดีโอที่ผ่านๆมา โดยการใช้วิดีโอมาเป็นส่วนประกอบเพื่อแสดงผลิตภัณฑ์ ทำให้ผู้รับชมสามารถเข้าใจถึงตัวสินค้าได้ดียิ่งขึ้น แสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นที่สุดของผลิตภัณฑ์ ได้รับการตอบรับจากผู้ชมเป็นอย่างดี ซึ่งข้อดีเหล่านี้ทำให้เห็นภาพว่าการทำวิดีโออนิเมชั่นเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ในตัวอย่างด้านล่าง ทีมงาน Two Beas Marketing – Digital Marketing ได้จัดทำวีดีโออนิเมชั่นสำหรับแนะนำถึงประโยชน์ของการทำ Google Map Marketing & SEO เพื่อให้เจ้าของธุรกิจเข้าใจถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการบริการนี้ ตัวอย่างถัดเป็นการทำวีดีโอในรูปแบบอนิเมชั่นสำหรับอธิบายเรื่อง Search Engine Optimization หรือ SEO เพื่อธุรกิจ ซึ่งทำให้เจ้าของกิจการสามารถเห็นภาพของการทำ
Detailsการทำให้เพจติดหน้าแรก Google
Search Engine Traffic Search Engine Traffic คือ ทราฟฟิกที่ได้จาก Search Engines ต่างๆ ซึ่งในเบื้องต้นจะแบ่งได้ 2 ประเภท ดังนี้ Paid Traffic คือ ทราฟฟิกที่เกิดขึ้นมาโดยมีค่าใช้จ่าย เช่น Adwords หรือ Google Ads คือ การจ่ายเงินเพื่อให้เว็บไซต์ไปอยู่ที่หน้าแรกของ Google วิธีนี้จะเป็นการกำหนดคำที่เราต้องการ และกำหนดว่าเราพร้อมจ่ายที่ราคาเท่าไหร่ต่อ 1 คลิก ซึ่งถ้าหากมีผู้อื่นกำหนดคำเดียวกับเรา และจ่ายราคาที่สูงกว่าก็จะมาแทรกอันดับของเรา ซึ่งบริเวณโฆษณานี้ทาง Google จะมีได้ที่ 2-3 ตำแหน่งเท่านั้น หากเราต้องการติดอันดับ เราจำเป็นต้องจ่ายในราคาที่สูงขึ้น หรือจะเรียกว่า “การประมูล Keywords” ซึ่งในบางกรณีจำเป็นต้องมี Budget ที่สูงสำหรับ Keywords ที่มีการแข่งขันสูง Organic Traffic / SEO การตลาด Google Map
Detailsการสร้างเว็บไซต์ธุรกิจการค้า ให้ติดอันดับบน Google
การจะทำให้เว็บไซต์ธุรกิจให้ติดอันดันบน Google ได้นั้น สามารถทำได้! การที่เว็บไซต์ธุรกิจหรือร้านค้าของเราติดอันดับการค้นหาบน Google นั้น จะทำให้เราได้ลูกค้าจากการค้นหาคำที่กลุ้มเป้าหมายของเราต้องการ ซึ่งในการจะทำให้เว็บเราติดหน้าหนึ่งหรืออับดับต้นๆบน Google นั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยปัจจัยที่เกี่ยวกับด้าน On-Page เบื้องต้นจะประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้ ความเรียบง่าย เข้าใจง่าย ใช้งานง่าย ความสม่ำเสมอ ไม่สับสน การจัดการโครงสร้างเว็บ สร้างความโดดเด่น เอกลักษณ์ เช่น Logo เนื้อหาต้องครบ เช่น Detail Product ระบบ Navigation หรือ Menu ใช้งานง่าย Navigation ก็เหมือนการนำทางไปที่ต่างๆในเว็บไซต์ เน้นใช้งานง่าย สะดวก ไม่มีความสับสน คุณภาพของเว็บไซต์ เว็บไซต์ที่ดีจะต้องมีคุณภาพ สิ่งต่างๆที่ปรากฏบนเว็บไซต์ไม่ว่าจะเป็น กราฟิก ชนิดตัวอักษร รูปภาพ สีสันต่างๆที่นำมาใช้ ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้จะสร้างจุดเด่นของเว็บขึ้นมา ความสะดวกในการใช้งาน เว็บไซต์ที่ดีต้องสร้างความสะดวกให้ผู้ใช้งาน ต้องมีระบบการใช้งานที่ง่ายเข้าใจไม่ยาก สะดวกในการใช้ ความคงที่ของการออกแบบ คือการออกแบบเว็ปไซต์ให้มีความคงที่ในการออกแบบ อธิบายง่ายๆก็คือ Theme
Detailsโฆษณา Facebook Ads คุ้มหรือไม่?
จ่ายค่าโฆษณา Facebook Ads คุ้มหรือไม่? ก่อนอื่นเลยเรามาทำความรู้จักกับ Facebook Ads กันก่อนนะครับ เพราะหลายคนอาจจะยังไม่รู้วิธีการใช้ หรือไม่รู้ว่ามีประโยชน์อย่างไรกับธุรกิจของคุณ Facebook Ads หรือ Facebook Advertisements โดยความหมายตรงตัวของมันเลยก็คือ การโฆษณาผ่านทางช่องทางเฟสบุค Facebook แน่นอนว่าการที่ Facebook มีผู้ใช้อยู่มากมายทั่วโลก การโฆษณาผ่านช่องทางนี้จะทำให้มีผู้ที่สนใจสินค้า และรู้จักแบรนด์ของคุณเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนั่นคือข้อดีของการรัน Facebook Ads โฆษณา facebook มีกี่แบบ การโฆษณา Facebook Ads มีหลายรูปแบบ และเฟสบุคก็จะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ หน้าตา และวิธีการทำโฆษณา Ads อย่างต่อเนื่อง เช่น มีการปรับเปลี่ยน UX ของการทำโฆษณา Facebook ในปี 2019 และมีการปรับเปลี่ยนให้ใช้การ Optimize Budget ในระดับ Campaign แทนการปรับในระดับ Ad Sets ตัวอย่างรูปแบบในการโฆษณา Facebook
Detailsการนำดิจิตอล Marketing มาใช้ในการเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจ
การใช้นโยบายในการตัดราคา นอกจากจะทำให้ธุรกิจของเราค่อนข้างไม่น่าเชื่อถือ และจะทำให้กำไรน้อยลงอีกด้วย จึงควรหันมาให้ความสนใจกับการทำ Testimonials มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจ SME ที่มีการแข่งขันสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจจะสู้เจ้าใหญ่ไม่ได้ การที่ได้รับคำชมเชยจากลูกค้าถือว่าเป็นการทำให้ธุรกิจของเราเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น Testimonials คืออะไร? สำคัญกับธุรกิจอย่างไร Testimonials คือ คำชมเชย หรือการบอกเล่าประสบการณ์ที่ประทับใจในการใช้สินค้า/บริการ ของลูกค้า ซึ่งอยากจะบอกเล่าให้กับผู้อื่นได้ทราบโดย Testimonial ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแบรนด์ให้คนทั่วไปได้รู้จัก เช่นเมื่อมีคนมาชมแบรนด์ของเรา แล้วลูกค้ากลุ่มเดียวกัน ที่มี Life style คล้ายๆกัน (อาจจะเป็นกลุ่มคนที่มีอายุใกล้เคียงกัน อาชีพเดียวกัน หรือมีประสบการณ์เดียวกัน) เมื่อเห็นว่าคนๆนั้นได้สิ่งที่ดีจากเราไป ก็จะทำให้เกิดความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อสินค้า/บริการของเรามากขึ้น Testimonials ควรเริ่มทำอย่างไรดี ควรกำหนดเวลาที่จะรวบรวม Testimonials อย่างจริงจัง อย่าปล่อยให้มันกลายเป็นเรื่องที่ทำหรือไม่ทำก็ได้ Testimonials ถูกจัดทำขึ้นเพื่อสะท้อนสิ่งที่เราอยากจะบอกกับลูกค้า ขอความคิดเห็นจากลูกค้าเสมอ เพราะมีลูกค้าเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะทำให้ จึงต้องทำมันอย่างสม่ำเสมอ และหลังจากที่ลูกค้าทำเสร็จแล้ว ก็ควรขอบคุณลูกค้าที่สละเวลามาทำให้ บางทีคุณอาจจะร่างบทพูดให้ลูกค้าก่อน ให้ลูกค้าสามารถรู้ได้ว่า ควรจะพูดออกมายังไง เพื่อให้ไม่เป็นการเสียเวลาของลูกค้ามากจนเกินไป ปัญหาของลูกค้าคืออะไร มีช่องทางการติดต่อกับลูกค้าอย่างไร (อาจจะหมายถึงการที่บริษัทเราถูกแนะนำจากลูกค้าคนก่อนๆ) ผลตอบแทนที่ลูกค้าได้จากบริษัทของคุณเป็นอย่างไร ได้ผลดีไหม
Detailsเตรียมตัวเริ่มโพสต์คลิปวีดีโอบน Facebook Page กันได้แล้ว ลุยเลย!
การอัพโหลดวีดีโอลง Facebook ได้แล้ว วีดีโอ (Video) คือ สื่อมัลติมีเดียที่สามารถแสดงภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงประกอบได้ โดยมีจุดประสงค์ที่หลากหลายเช่น เพื่อความบันเทิง เพื่อการศึกษาหาความรู้ รวมทั้งยังสามารถวางแผนเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อสร้างรายได้ทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี จากการดึงดูดลูกค้าด้วยวีดีโอแนะนำสินค้าและบริการ และถึงแม้ว่าสื่อวีดีโอจะมีความโดดเด่นในการนำเสนอเป็นอย่างมากแต่การสร้างสรรค์ออกมาไม่ใช่เรื่องง่ายซึ่งจะต้องทำเนื้อหาให้น่าติดตามน่าสนใจ โดยมีเป้าหมายเพื่อท่ายทอดความต้องการของผู้จัดทำไปยังผู้ชมผ่านสื่อวีดีโอเพื่อให้มีความเข้าใจตรงกันและสามารถทำให้ผู้ชมดูได้จนจบโดยที่ไม่เบื่อแล้วหยุดไปซะก่อน วีดีโอจะสำคัญมากยิ่งขึ้นตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป ในอดีตที่ความเร็วอินเทอร์เน็ตยังไม่สูงเท่าปัจจุบัน การใช้งานจึงเน้นไปที่การสื่อสารผ่านข้อความตัวอักษรเป็นหลักเนื่องจากใช้ทรัพยากรณ์น้อยและรองรับการใช้งานได้เป็นจำนวนมากในหนึ่งหน้าการแสดงผล และเมื่อเวลาผ่านไปความต้องการใช้ก็ยิ่งสูงขึ้นจึงเริ่มมีการใช้รูปภาพในการสื่อสารและนำเสนอ ซึ่งมีความสามารถในการสื่อสารที่สูงมากขึ้นทั้งความสวยงามและความหมายในการสื่อเรื่องราวจากรูปภาพ แล้วก็มาถึงยุคที่สามารถใช้งานวีดีโอได้ซึ่งต้องใช้ความเร็วอินเทอร์เน็ตมากยิ่งขึ้นในความละเอียดสูงๆแต่ก็เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเช่นกันและใช้งานกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน อินเทอร์เน็ตเร็วขึ้น คนดูวีดีโอจึงมากยิ่งขึ้น อย่างที่ได้กล่าวไปว่าสื่อวีดีโอนั้นมีประสิทธิภาพสูงมากทั้งในเรื่องการถ่ายทอดเรื่องราวและนำเสนอทำให้มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายผ่านทาง Social Media แทบทุกประเภทและยิ่งอินเทอร์เน็ตมีความเร็วมากเท่าใดก็ยิ่งเป็นการทำลายขีดจำกัดในการสรรค์สร้างวีดีโอที่มีความละเอียดมากเท่านั้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพความคมชัดทำให้ภาพที่ได้เห็นมีความใกล้เคียงกับความจริงมากยิ่งขึ้นโดยมักจะใช้งานวีดีโอในสื่อต่างๆเช่น ละครภาพยนต์ สารคดี การถ่ายทอดสดเป็นต้น Facebook เน้นฟีเจอร์เพื่อวีดีโอมากกว่าสื่อชนิดอื่น รายละเอียดการอัพเดทฟีเจอร์เพื่อการใช้งานวีดีโอบน Facebook 2007 เดือนพฤษภาคม – เริ่มให้สามารถใช้งานการอัพโหลดวีดีโอลงในเว็บไซต์ได้ พร้อมความสามารถในการ Tag บุคคลงเบื้องต้น 2014 เดือนธันวาคม – สามารถปักหมุดวีดีโอที่ต้องการไว้ในหน้าแรกได้โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อคนทำธุรกิจเป็นหลัก 2015 เดือนมกราคม – มีการเผยแพร่รายงานที่บ่งบอกถึงการใช้งานวีดีโอว่ามีการเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด พร้อมทั้งบอกอีกว่ามียอดรับชมวีดีโอกว่า หนึ่งพันล้าน ครั้งในแต่ละวันตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2014 2015
Detailsกลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์ 2018-2019
กลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์สำหรับปี 2018-2019 สำหรับธุรกิจ SME ในปัจจุบันการแข่งขันการทางธุรกิจบนตลาดออนไลน์นั้น มีความเข้มข้นขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการทำ SEO (Search Engine Optimization) เพื่อให้เว็บไซต์ของเราขึ้นไปอยู่หน้าแรกๆหรืออับดับต้นๆของ Google Search Engine หรือจะเป็นการโฆษณาบนโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, YouTube, Instagram ซึ่งในวันนี้เราก็อยากที่จะมาแชร์แนวคิดในการทำการตลาดที่เหมาะสมกับปัจจุบันกันครับ ก่อนอื่น เราควรหาวิธีการทำการตลาดออนไลน์ (digital marketing) อย่างเป็นระบบ ซึ่งการที่เราสร้างกระบวนการทำงานให้เป็นระบบจะช่วยให้การทำการตลาดนั้นมีความสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การสร้างระบบงานสำหรับการทำการตลาดออนไลน์ Planning (การวางแผนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์) ในการวางแผนกลยุทธ์ด้านการตลาดออนไลน์ เราควรวางแผนก่อนเสมอว่า เราควรทำการตลาดบนแพลตฟอร์มไหน งบประมาณเท่าไร จะใช้สื่อมีเดียอะไรในการสื่อสารไปยังลูกค้า และสิ่งที่สำคัญคือลูกค้าในแพลตฟอร์มนั้นๆมีพฤติกรรมอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าใน Facebook มีพฤติกรรมที่ชอบดูรูปภาพ พร้อมกับอ่านโพสประกอบ ซึ่งเราก็ควรจะมีรูปภาพสวยๆประกอบ บวกกับข้อความที่ชัดเจน กระชับ น่าอ่านไม่น่าเบื่อเป็นต้น และกรณีที่เราจะทำวิดีโอลงบนเฟสบุ๊ค เราก็อาจจะทำวิดีโอให้มีความกระชับชัดเจน เป็นต้น อีกหนึ่งสิ่งคือเราก็ควรจะวางแผนด้วยว่า จะวัดผลอย่างไร Content Creation (การสร้างคอนเทนต์) การสร้างคอนเทนท์ให้น่าสนใจจะเป็นผลที่ได้จากการวางแผนในขั้นตอนการวางแผน ว่าเราควรจะผลิตสื่อคอนเท้นท์แบบไหนให้ตรงใจกับกลุ่มผู้ชมให้มากที่สุด
Details